วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557

น้ำซุปอร่อยจากคัรวโลก สู่ครัวคุณ

น้ำซุมอันหอมหวานแสนอร่อย ....

          บางคนคิดว่าทำได้ยาก และ ยากมากแต่ความเป็นจริงแล้วไม่ยากอย่างที่คัณคิดเลย เราลองว่าดูนะครับว่ามีวิธีการทำอย่างไรบ้าง ???

       คุณรู้หรือไม่ การที่จะทำแกงจืด หรือก๋วยเตี๋ยวน้ำให้อร่อย เคล็ดลับสำคัญอยู่ที่ความหอมหวานของน้ำซุป การต้มน้ำซุปให้มีรสอร่อย ต้องเริ่มที่ความสดของกระดูกซี่โครงไก่ โดยใช้สัดส่วนอยู่ที่ประมาณซี่โครงไก่ 1กิโลกรัม ต่อน้ำประมาณ 7 - 8 ถ้วยตวง สับซี่โครงเป็นชิ้นใหญ่ๆ ล้างเศษเลือดและสิ่งสกปรกออก ต้มน้ำให้เดือด ใส่ซี่โครงลงไป รอจนน้ำเริ่มเดือดอีกครั้ง ให้หรี่ไฟอ่อนๆ แล้วคอยช้อนฟองออก ถ้าน้ำพร่องให้เติมน้ำลงไปบ้าง เคี่ยวประมาณ 40-50 นาที จะได้น้ำซุปใส หอมหวาน

เคล็ดลับการเผามะเขือยาวให้อร่อย

เทคนิคการเผามะเขือยาวให้อร่อยนั้น .... มีธีการง่ายๆดังต่อไปนี้



          มะเขือยาว เป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตในดินในทุกสภาพ ทั้งดินที่มีความเป็นกรดและเป็นด่าง มะเขือยาวสามารถปลูกได้ ตลอดปี ทุกฤดู และทั่วทุกภาคของไปประเทศไทย มะเขือยาว เป็นพืชที่ใช้ส่วนผล ในการบริโภค ใช้เป็นผักสด หรือประกอบอาหารได้หลายชนิด
มะเขือยาวเวลาจะเอาไปทำอาหารบางประเภท ต้องเอาไปเผาก่อน แต่ถ้าเผาไม่เป็นก็จะได้ มะเขือเผาเนื้อแข็ง ทานไม่อร่อย ที่เป็นอย่างนั้นเพราะเรากลัวมะเขือจะไหม้ เลยใช้ไฟอ่อน กลับกลายเป็นว่าต้องใช้าเวลาเผานาน เนื้อมะเขือที่ปอกแล้วเลยมีสีน้ำตาล แข็ง ไม่น่าทาน วิธีเผามะเขือยาวที่ถูกต้องให้ใช้ไฟแรงค่ะ กลับไปมาจนสุกทั่ว จากนั้นเอาไปจุ่มน้ำเย็นสักครู่หนึ่ง เมื่อลอกเปลือกออก เนื้อมะเขือข้างในจะยังนุ่มและมีสีเขียวสวย น่าทานกันเลยทีเดียวครับ

เมื่อทราบอย่างนี้แล้ววันนี้ลองกลับไปทำมะเขือเผาดู เผื่อว่าคุณจะได้เมนูใหม่ในการรับประทานครับ !!!!

วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557

การปรุงด้วยวิธีการผัดง่ายๆ เพิ่มรสชาดให้อาหาร 100 เท่า

การปรุงด้วยวิธีการผัดง่ายๆ เพิ่มรสชาดให้อาหาร 100 เท่า




การปรุงอาหารด้วยวิธีการผัด ( STIR-FRYING ) : วิธีนี้เป็นวิธีปรุงอาหารที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก ถ้าคุณไม่มีกระทะหลุมแบบที่ใช้กันโดยทั่วไป กระทะแบนสำหรับทอดก็สามารถใช้แทนกันได้ ก่อนการผัดทุกครั้งจะต้องตั้งไฟจนกระทะร้อนได้ที่ก่อนจะใส่วัตถุดิบ (เนื้อสัตว์ หรือ ผัก) ลงไปในกระทะ ในการผัดนั้น นิยมใช้ตะหลิว (ทั้งที่ทำจากโลหะ หรือไม้) เพื่อกลับอาหารในกระทะอย่างรวดเร็ว เมื่ออาหารสุก รีบปรุงรสและนำออกจากกระทะและเสิรฟขณะที่อาหารยังร้อนๆ เนื่องจากขั้นตอนการผัดนั้นมักจะใช้เวลาสั้น วัตถุดิบต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ในการประกอบอาหารประเภทนั้นจะต้องถูกเตรียมให้พร้อมก่อนเริ่มการผัด ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อทำการผัดอาหารแล้วจะได้อาหารที่สุกพอดี ไม่ไหม้จากการที่ต้องเสียเวลาเตรียมวัตถุดิบอื่นๆขณะที่ผัดอาหาร เคล็ดลับที่สำคัญในการผัดอาหารทะเลนั้น เวลาผัดจะต้องใช้ไฟสูง และผัดอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ผิวด้านนอกของอาหารทะเลสุก ขณะที่ภายในยังนุ่ม (ปรุงงเกือบสุก - จะได้รสชาติดีที่สุด) อาหารทะเลที่ปรุงสุกเกินไปจะรสชาติไม่อร่อย ผิวแข็ง และกระด้าง

วิธีทอดปลาให้ฟูน่ารับประทาน

การทอดปลาให้ฟูโดนใจ !! 
          มีเทคนิคง่ายๆเพียงนิดเดียวจะทำให้ปลาแบนๆฟูขึ้นมาได้ คือ นำปลาที่ต้องการจะทำมาทำให้สุกก่อนด้วยวิธีการย่างหรือนึ่ง แล้วนำมาแกะเอาแต่เนื้อปลา ยีเป็นชิ้นเล็กๆหรือจะใช้วิธีการสับแทนก็เป็นได้ คุณสามารถผสมเกล็ดขนมปังลงไปเล็กน้อย เกล็ดขนมปังจะช่วยให้ปลาแห้งเร็วขึ้น ไม่แฉะ เวลาทอดจะขึ้นฟูดี อีกทั้งยังจะช่วยเพิ่มปริมาณปลาฟูอีกทางหนึ่งด้วย
          การทอดปลาฟูควรใช้น้ำมันตั้งเดือด 170-200 องศา เวลาทอดสิ่งที่สำคัญคือ น้ำมันต้องร้อนทุกครั้ง !!! เวลาทอดก็โรยเนื้อปลาลงทีละน้อยทอดจนเหลืองฟูเต็มกะทะแล้วจึงตักขึ้น

  • เลือกใช้น้ำมันสำหรับทอดที่มีอุณหภูมิสูง (170 – 200 °C) จะทำให้ทอดง่ายไม่เกิดควัน ได้แก่ น้ำมันปาล์ม น้ำมันข้าวโพด ส่วนน้ำมันพืชที่ทำจากถั่วเหลืองเหมาะสำหรับนำไปผัด เนื่องจากมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่า เวลาทอดจะอุณหภูมิจะไม่ร้อนพอ และน้ำมันจะกลายเป็นควัน
  • วิธีสังเกตว่าอาหารที่ทอดสุกหรือยัง ให้สังเกตฟองอากาศที่เกาะอยู่รอบๆ อาหาร หากอาหารเริ่มสุกฟองอากาศที่เกาะอยู่รอบๆ จะหมดไป อาหารจะมีน้ำหนักเบาลงและลอยตัวขึ้นอยู่บนผิวหน้าของน้ำมัน
  • ไม่ควรทอดนานเกินไปจะทำให้ปลาฟูอมน้ำมัน ระดับความร้อนของน้ำมันที่ใช้ทอดควรมีความร้อนสูง (170-200 °C) เมื่อทอดในน้ำมันที่ร้อนได้ที่จะทำให้อาหารกรอบและไม่อมน้ำมัน
วันนี้มีเมนูง่ายๆมเสนอเกี่ยวกับการทำปลาฟู ...... นั่นคือ 

ยำปลาดุกฟู (สำหรับ 4 คน)

ปลาดุกย่าง                     2   ตัว
เกล็ดขนมปังป่น                ½  ถ้วย
น้ำมันพืชสำหรับทอด           3   ถ้วย
ถั่วลิสงทอดเอาเปลือกออก     ¼  ถ้วย
ผักกาดหอม หรือกรีนโอ๊ค สำหรับรองจาน ใบผักชีสำหรับตกแต่ง

น้ำยำ
น้ำตาลปีบ    ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา    ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว    ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย  หัว
พริกขี้หนูสับ   ช้อนโต๊ะ
มะม่วงเปรี้ยวสับ ½ ถ้วย

1.    แกะเนื้อปลาดุกย่าง เอาก้างและหนังออก สับให้ละเอียด ผึ่งให้เนื้อปลาแห้งสักครู่ เมื่อจะนำไปทอดจึงใส่เกล็ดขนมปังป่น เคล้าให้เข้ากัน ตั้งกระทะน้ำมันร้อนจัดบนไฟกลาง ใส่ลงทอด พอปลาดุกฟูเต็มที่ ลดไฟลง ใช้ตะหลิวตักน้ำมันราดให้ทั่ว ทอดให้ฟูเหลืองทั้งสองด้าน ตักขึ้นพักบนกระดาษซับน้ำมัน
2.    ทำน้ำยำโดยผสมน้ำตาลปีบ น้ำปลา และน้ำมะนาว เข้าด้วยกันในถ้วย คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย ใส่หอมแดง พริกขี้หนู และมะม่วงสับ
3.    จัดปลาดุกฟูใส่จานที่รองด้วยผักกาดหอม หรือกรีนโอ๊ค โรยถั่วลิสงทอด ตกแต่งด้วยใบผักชี เสิร์ฟกับน้ำยำ

ต้มไก่ทั้งตัวให้ไม่ลอก สวยทั้งตัว !!

วิธีต้มไก่ไหว้ ต้มไก่ทั้งตัว ให้สุก ทั่วสวย และหนังไม่ลอก



เคยมั้ย ????? ต้มไก่ตัว จะต้มไก่ไหว้ตามเทศกาลทุกเทศกาล ปัญหาสำหรับมือใหม่หัดต้มไก่ทั้งตัว ก็คือ ต้มแล้วไก่ไม่สุก หรือสุกไม่ทั่วตัว ข้างนอกสุก แต่พอสับมารับประทาน ข้างในกลับเนื้อเป็นสีแดงๆ หรือไม่ก็ต้มเสร็จ ไก่ต้มหนังถลอกปอกเปิก ไม่น่าดูเอาเสียเลย อยากได้ไก่ไหว้ ต้มสุกๆ สวยๆ มาอ่านเคล็ดลับ วิธีต้มไก่ไหว้ทางนี้กันเลยครับ...เริ่มจากทำความสะอาดไก่ตัว ใช้แหนบถึงขนไก่ที่ตกค้างตามส่วนต่างๆ ออก แล้วล้างให้สะอาด (ไก่ไหว้ขนเต็มคอไม่สวยแน่ๆ) อย่าลืมล้างข้างในตัวไก่ด้วย ลองล้วงดูข้างในบริเวณซี่โครง ถ้าแม่ค้าลืมควักปอดออก ให้ควักปอดกับก้อนเลือดที่ค้างอยู่ด้านในออกด้วย ตรงนี้แหละจัดเป็นเคล็ดลับสำคัญ ถ้าเราไม่ควักปอดออกและล้างให้สะอาด เวลาต้มเศษเลือดที่สุกมักจะลอยออกมาเกาะตามตัวไก่ ทำให้ดูกระดำกระด่าง ไม่สวยเลยครับ ใส่เกลือลงในท้องไก่ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ จับขายัดใส่เข้าไปในท้อง ไก่ไหว้ต้องเก็บขาไว้นะคะ อย่าไปตัดทิ้งเชียว เอาเชือกผูกคล้องที่บริเวณปีกไก่ (เหมือนที่เห็นเค้าใช้แขวนตามร้านข้าวมันไก่แหละครับบบ)
ตั้งน้ำต้มให้เดือด กะปริมาณน้ำให้เมื่อใส่ไก่ลงต้มแล้วน้ำต้องท่วมตัวไก่ ใส่ไก่ลงต้ม (กรณีที่ต้มไก่มากกว่าหนึ่งตัว ขอให้ดูขนาดหม้อ ให้ใหญ่เหมาะสมกับปริมาณไก่ตัว ที่ต้มด้วย เพราะถ้าไก่เบียดกันเกินไป หนังอาจจะหลุดลุ่ย ไม่สวย) ขยับให้น้ำเข้าด้านในของตัวไก่ พอน้ำเริ่มเดือดอีกครั้ง จึงหรี่ไฟลง ช้อนฟองออกให้หมด ต้มประมาณ 15-20 นาที (แล้วแต่ไก่ตัวใหญ่หรือเล็ก) หมั่นช้อนฟองออก เพราะฟองนี่แหละถ้าไปติดบนตัวไก่ จะทำให้หนังไก่ดูเลอะครับ พอครบเวลา ยกไก่ขึ้นให้พ้นน้ำ (ถ่ายน้ำออกจากตัวไก่)
จากนั้นพลิกไก่อีกด้านใส่ลงต้มต่อ เหมือนใส่น้ำร้อนชุดใหม่ เข้าไปในท้องไก่ วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าไก่ด้านในสุกทั่วแน่นอน ต้มต่ออีกประมาณ 15-20 นาที จนไก่สุก
วิธีตรวจดูว่าไก่สุก ให้ใช้ตะเกียบจิ้มลงไปบริเวณขาหนีบไก่ ไม่มีเลือดออกมาแสดงว่าสุก ยกขึ้นจากหม้อต้ม หาที่ห้อยไว้ให้น้ำไหลออก ถ้ารู้สีกว่าหนังบางส่วนดูพองๆ เหมือนมีน้ำอยู่ข้างใน ให้ใช้มีดปลายแหลมสะกิดเบาะๆ ให้น้ำข้างในไหลออกมาค่ะ โรยเกลือบนตัวไก่เล็กน้อย แค่นี้ก็ได้แล้วค่ะ ไก่ต้มสำหรับไหว้เจ้าที่ ไหว้บรรพบุรุษ เทศกาลตรุษจีน สาร์ทจีน คงไม่ยากเกินไปนะครับ สำหรับเคล็ดลับการต้มไก่ตัวให้สวย ยกไปไหว้ที่ไหน ไก่ต้มสวย เชิดหน้าชูตาเจ้าของกันเลยคร้าบบบบ
วิธีทำกระเทียมเจียว เจียวกระเทียมให้สีเหลืองสวย กรอบนาน


กระเทียมเจียว ใครไม่เคยเจียวกระเทียม อาจไม่มีวันเข้าใจ โดยเฉพาะมือใหม่ เจียวกระเทียมแค่ไม่ให้ไหม้ นั้นยากเหลือแสน เจียวกระเทียมทีไร ไหม้ทุกที มาดูกันดีกว่าว่า เจียวกระเทียมให้ได้ กระเทียมเจียวสีเหลืองทอง กรอบๆ เก็บได้นานๆ นั้นเค้าทำกันยังไง
เริ่มจากการเลือกใช้กระเทียมก่อน กระเทียมก็มีหลายประเภทนะ แต่จะแนะนำให้ใช้กระเทียมไทยกลีบเล็ก เจียวออกมาแล้วจะได้กระเทียมเจียวที่กรอบหอม เอากระเทียมมาบุบเล็กน้อย (วางกองกระเทียมบนเขียง แล้วเอามีดตบลงไป หรือจะใส่ครกแล้วตำเบาๆ ก็ได้) แกะเปลือกแข็งๆ ออก ให้เหลือเปลือกบางๆ ข้างในไว้ จากนั้นเอาไปสับให้ละเอียด ที่ต้องบุบ หรือทุบเล็กๆ น้อยๆ ก็เพื่อให้น้ำมันหอมระเหยที่อยู่ในกระเทียมออกมา
           ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป กะว่าใส่กระเทียมลงไปแล้วน้ำมัน พอท่วมกระทียม ใช้ไฟปานกลาง จากนั้นใส่กระเทียมตามลงไป (อย่าปล่อยจนน้ำมันร้อนจัดค่อยใส่ กระเทียมจะไหม้ ใช้ตะหลิวคนกระเทียมไปมา คอยเขี่ยให้เนื้อกระเทียมส่วนที่อยู่วง รอบนอก สัมผัสกับกระทะ ตลบเข้าไปข้างใน (ส่วนที่สัมผัสกระทะ มักจะไหม้ก่อน) คนให้ทั่ว พอกระเทียมเริ่มเหลือง ให้ตักขึ้นทันที ความร้อนที่ระอุอยู่ จะทำให้กระเทียมสุกเพิ่ม จนสีสวยพอดี ถ้าเราเจียวจนกระเทียม สีเหลืองสวยในกระทะ พอตักขึ้นมา กระเทียมจะสุกเพิ่มจนกลายเป็น สีน้ำตาลไปซะแล้ว
ถ้าตักขึ้นมาแล้ว กระเทียมทำท่าจะไหม้ ให้เอาน้ำเย็นใส่กะละมัง ใบที่ใหญ่กว่าภาชนะที่ใส่กระเทียมอยู่ เอาชามกระเทียมลงไปลอยบนน้ำเย็น เพื่อให้กระเทียมหยุดสุก กระเทียมเจียวที่ใช้ไม่หมด หาขวดโหลแก้วใส่ ปิดฝาให้สนิท จะเก็บไว้ให้กรอบได้นาน

เคล็ดลับการทอด...ทอดมันกุ้งให้อร่อย

เคล็ดลับวิธีทำ ทอดมันกุ้ง ให้อร่อย


ทอดมันกุ้ง คงจะเป็นอีกหนึ่งในเมนูอาหารยอดนิยม ที่เรามักจะสั่งรับประทาน เวลาไปร้านอาหาร แต่บางครั้งก็มีแอบลุ้นว่า จะได้ทานทอดมันกุ้งจานอร่อยมั๊ย เพราะบางครั้งก็ ไม่อร่อยถูกปาก ร่วนไป แฉะไปบ้าง บางทีกัดไปก็ถามตัวเองว่า นี่ฉันทานอะไรอยู่??? วันนี้แม่เขียวหวาน เลยขอหยิบเอา สูตรอาหารจาน ทอดมันกุ้งมาคุยกันว่า มันมีเทคนิค วิธีทำทอดมันกุ้งยังไงถึงจะอร่อย เฮ้อ ร่ายซะยาว เริ่มเลยดีกว่า
วิธีทำทอดมันกุ้งให้อร่อย สิ่งแรกที่สำคัญมากคือ กุ้งต้องสด ประมาณว่ายิ่งสดยิ่งอร่อย กุ้งแช่แข็งเอามาทำได้ แต่ก็ไม่อร่อยเท่ากุ้งสด ทำความสะอาดกุ้งแล้ว แกะเปลือกออก อย่าลืมผ่าหลังกุ้ง ลอกเอาเส้นดำออกด้วย เนื้อกุ้งที่แกะออกมาแล้ว ไม่ควรนำไปล้างน้ำอีก เพราะจะทำให้ความหวานหายไป และจะทำให้ทอดมันกุ้งที่ได้แฉะ
ส่วนผสมต้องผ่านการนวด สมัยก่อนเวลาทำ ทอดมันกุ้งก็ต้องตำเนื้อกุ้ง และนวดให้เนียน แต่ถึงแม้สมัยนี้จะมี เครื่องบดผสมอาหารมาช่วยทุ่นแรง แต่แม่เขียวหวานก็อยากจะบอกว่า การนวดก็ยังคงความสำคัญอยู่ หลังจากบดส่วนผสมด้วยเครื่องบดแล้ว ควรนำส่วนผสมใส่ในชามหรือกะละมัง ที่ทำด้วยสแตนเลสได้ยิ่งดี นวดให้ส่วนผสมตั้งยอดได้เลยค่ะ เสร็จแล้วปิดฝานำไปแช่ในช่องแช่แช็งซัก 15 นาที แล้วนำออกมานวดอีกที จึงนำไปปั้นและทอด
ก่อนจะทอดจริง ควรปั้นลงไปทดลองทอดแล้วนำมาชิมก่อน เผื่อว่ารสชาติไม่พอดี จะได้ปรุงเพิ่มก่อนได้ มีจุดสังเกตุอย่างนึง อาหารประเภททอดมัน เครื่องปรุงมักจะไม่ใช้ที่เป็นน้ำ เพราะจะทำให้ส่วนผสมเหลว
ขนาดของชิ้นทอดมันกุ้งเวลาทอดก็มีความสำคัญ อย่าปั้นหนาจนเกินไป เพราะจะทำให้เวลาทอดแล้วเกล็ดขนมปังไหม้ แต่เนื้อกุ้งข้างในยังไม่สุก และควรเตรียมปั้นไว้หลายๆ ชิ้น ก่อนค่อยเริ่มทอด ไม่อย่างนั้นจะปั้นไม่ทัน
อุณหภูมิของน้ำมันขณะทอด ก็มีความสำคัญ ถ้าน้ำมันร้อนน้อยจนเกินไป ทอดมันกุ้งก็จะอมน้ำมัน แต่ถ้าร้อนจัดเกินไป เกร็ดขนมปังก็อาจจะไหม้ได้ ก่อนใส่ทอดมันชิ้นแรกลองทอด ลองหยิบเศษขนมปังเล็กน้อยคลุกกับไข่ ที่เหลือติดอยู่ก้นถ้วยก็ได้ ใส่ลงไปในน้ำมัน ถ้าชิ้นขนมปังโดนน้ำมันแล้ว ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย แสดงว่าน้ำมันยังร้อนไม่พอ ถ้าใส่ลงไปแล้วเดือดเป็นฟอง ลอยขึ้นมาแสดงว่าน้ำมันร้อนได้ที่ แต่ถ้าน้ำมันมีควันลอยขึ้นมา มันอาจจะร้อนเกินไปแล้วล่ะ
พอทอดมันกุ้งมีสีเหลืองทอง ก็ทยอยตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานให้สวยงาม ที่สำคัญ ทานตอนอุ่นๆ อร่อยอย่าบอกใครเชียว
ทั้งหมดนี้เป็น เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่พ่อครัวแม่ครัวมือใหม่ สามารถนำไปใช้ได้ วิธีทำทอดมันกุ้งอร่อยๆ ทำเองได้ง่ายๆ ประหยัดเงินในกระเป๋าด้วย

วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557

เทคนิคการหั่น ทำให้อาหารน่ากินมากยิ่งขึ้น >>>>

เทคนิคการหั่น ...




เทคนิคการหั่นที่ดีเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อาหารอร่อย และช่วยรักษาคุณค่าของอาหารได้ครบถ้วน    
เคล็ดลับในการทำอาหารให้อร่อยใครๆ ก็รู้ว่าต้องเลือกเครื่องปรุงที่สดใหม่จริงมั้ยครับ แต่จะมีกี่คนบ้างที่รู้ว่าเทคนิคการหั่นก็เป็นส่วนสำคัญเอามากๆ ในการทำอาหารให้อร่อยนั้นเชฟมืออาชีพจะมีชุดมีดคู่กายเหมือนเป็นอุปกรณ์คู่ใจ และต้องลับมีดให้คมอยู่เสมอ เพราะถือว่าเป็นของสำคัญที่ใช้ในการประกอบอาชีพ มีดที่คมจะทำให้หั่นง่าย นอกจากจะทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้นแล้วยังทำให้วัตถุดิบที่ถูกหั่นเมื่อนำไปประกอบอาหารจะได้รสชาติอาหารที่อร่อยขึ้น 
        
        เทคนิคการหั่นที่ดีจึงเริ่มต้นจากการใช้มีดเป็นอันดับแรก มีดสำหรับการทำครัวที่จริงแล้วมีมากมายหลายชนิด โดยแบ่งตามประเภทของการใช้งาน เช่น มีดปังตอสำหรับสับกระดูก (Cleaver) มีดสำหรับแล่ปลา (Fillet knifeมีดสำหรับเลาะกระดูก (Boning knife)และมีดหั่นขนมปัง (Bread knife) เป็นต้น เนื่องจากปัจจุบันการซื้อเครื่องปรุงสะดวกขึ้นมาก อยากจะซื้อหมูก็มีให้เลือกทั้งแบบหมูสับ หมูชิ้น หมูติดกระดูก ชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ ทำให้เราลดเวลาและภาระในการเตรียมส่วนผสมจำพวกเนื้อสัตว์ไปได้มาก ฉะนั้นมีดที่มีคุณสมบัติเฉพาะทางจึงไม่มีความจำเป็นเท่าใดนัก สำหรับผู้เริ่มต้นทำอาหารจึงต้องการมีดแค่ 2 มีดเท่านั้นเอง เล่มแรกก็คือมีดอเนกประสงค์ (Chef knife)ขนาดกำลังพอเหมาะมือ ประมาณ 30 เซนติเมตร สำหรับหั่นเนื้อหั่นผัก สับละเอียด ซอยบาง ทำได้ทุกอย่างครับ และมีดขนาดเล็ก (Paring knifeสำหรับการหั่นของชิ้นเล็ก หรือของที่ต้องการความละเอียด เท่านี้ก็สร้างสรรค์เมนูได้สารพัดแล้วครับ
        การเลือกมีดที่ดีคือมีน้ำหนักและขนาดเหมาะมือจะช่วยให้การหั่นของเราง่ายขึ้น แต่ว่ามีดที่มีเนื้อดีคุณภาพสูงราคาก็ย่อมแพงตามกันไปด้วย ขออย่างเดียวคือให้คมไว้ก่อน เมื่ออุปกรณ์พร้อมแล้วก็ลงมือหั่นกันเลยครับ การหั่นไม่ยากอย่างที่คิด ผู้ทำอาหารหัดใหม่ส่วนมากจะกลัวการใช้มีดคือกลัวโดนมีดบาดจึงเลือกใช้มีดที่ไม่คม ที่จริงแล้วมีดไม่คมจะทำให้มีโอกาสถูกมีดบาดเพิ่มขึ้นนะครับ เนื่องจากเมื่อเราใช้มีดทื่อเราจำเป็นต้องออกแรงมากในการหั่น ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่าย ดังนั้นหลักการก็คือเลือกใช้มีดที่คมและหั่นอย่างระมัดระวัง ไม่ต้องรีบ แล้วพยายามฝึกหั่นให้ชำนาญและคล่องมือครับ
        จุดประสงค์ของการหั่นก็คือหั่นให้วัตถุดิบของเราออกมาสวย โดยที่เราไม่ถูกมีดบาดใช่มั้ยครับ ดังนั้นจึงมีเทคนิคง่ายๆ ดังนี้
  1.     มือขวาถือมีด มือซ้ายเก็บนิ้ว สำหรับผู้ที่ถนัดขวาจะใช้มือขวาถือมีดสำหรับหั่น และมือซ้ายไว้ประคองหรือกดของที่เราต้องการจะหั่น มือซ้ายต้องเก็บนิ้วไว้เสมอนะครับ โดยให้ส่วนที่ข้อนิ้วโค้งชนส่วนของใบมีด วิธีนี้จะลดการบาดที่นิ้วของเราครับ
  2.     หั่นของที่มีลักษณะโค้งมน เพราะขณะหั่นมีดอาจแฉลบมาบาดมือของเราได้ วิธีก็คือให้หั่นส่วนใดส่วนหนึ่งให้เรียบซะก่อน แล้วนำส่วนนั้นวางราบลงกับเขียงและทำการหั่นต่อไป เท่านี้วัตถุดิบของเราก็จะไม่กลิ้งไปกลิ้งมาเวลาหั่น
  3.     การซอยหรือการหั่นละเอียด ให้กดปลายมีดไว้กับเขียง แล้วยกส่วนโคนมีดในการหั่นเท่านั้น โดยใช้มือซ้ายประคองกดที่สันมีดเอาไว้
  4.     การหั่นที่ดีต้องเกิดจากการเฉือนและกดของใบมีดลงไปที่เนื้อของวัตถุดิบพร้อมๆ กัน จะทำให้หั่นง่ายและรอยหั่นสวย ถ้ากดมีดอย่างเดียวโดยไม่มีการเฉือนจะต้องออกแรงมากและเสียความชุ่มฉ่ำของวัตถุดิบไป                                                                                           เมื่ออุปกรณ์พร้อม เทคนิคพร้อม ก็ถึงขั้นตอนลงมือทำกันแล้วล่ะครับ อย่าลืมว่าจะทำอาหารให้อร่อย ต้องทำบ่อยๆ จะหั่นของให้สวยๆ ก็ต้องฝึกบ่อยๆ นะครับ ลองนำเทคนิคการหั่นไปใช้กันดู หวังว่าทุกคนจะปลอดภัยจากมีดบาด และสามารถนำเทคนิคไปใช้ในการปรุงอาหารให้อร่อยถูกใจนะครับ

ต้มไข่ให้ได้ดั่งใจ

ต้มไข่ให้ได้ดั่งใจ


ไข่วัตถุง่ายๆที่สามารถนำไปทำอะไรก็อร่อยแบบเกินบรรยาย
         ไข่สามารถทำอาหารอะไรก็อร่อย ไม่ว่าจะเป็นอาหารทั้ง ไทย จีน ญี่ปุ่น และอื่นอีกมากมาย เป็นวัตถุดิบที่ทำอาหารได้หลากหลายชนิดและที่สำคัญราคาไม่แพงอย่างที่คาดฝัน และประเด็นสำคัญคือมีคุณค่าอาหารครบถ้วน แต่การต้มไข่ให้มีความสวยงามนั้นเป็นเรื่องยาก แต่วันนี้เราจะมาทำให้ง่ายโดยเทคนิคดังต่อไปนี้ !! 

พร้อมรึยังครับ กับการเริ่มต้นรับเทคนิคการต้มไข่ให้ได้ดั่งใจเรา !!
1. เลือกไข่ให้สดใหม่ ไข่ไก่สดจะจับบริเวณเปลือกแล้วมือจะสากมือเพราะจะมีนวลแป้งเคลือบเปลือกไข่อยู่ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้าไปในไข่
2. เก็บรักษาไข่ให้ดี เมื่อซื้อมาแล้วถ้ายังไม่ได้รับประทานควรเก็บรักษาในตู้เย็นอุณหภูมิ 4 องศาหรือต่ำกว่านั้น นอกจากนั้นควรเก็บทั้งกล่องเพราะจะช่วยการระเหยและลดการเพิ่มฟองแากาศภายในไข่อีกด้วย
3. ต้มไข่ให้ไม่ร้าวและแกะเปลือกง่าย ใส่น้ำเย็นให้ท่วม ตามด้วยน้ำมะนาวหรือเกลือป่นลงไปเล็กน้อย ถ้าอยากให้ไข่แดงอยู่ตรงกลางต้องขยันคนบ่อยๆ ไข่ต้มจะสุกภายใน 10 นาที
4. ไข่ลวกสุกพอดี เตรียมหม้อ 2 ใบ ใบหนึ่งใส่ไข่ลงไปและอีกใบต้มน้ำให้เดือด หลังจากจากต้มน้ำเดือดใส่ลงไปในไข่ปิดฝาทิ้งไว้ 5 นาทีเททน้ำออก จะได้ไข่ลวกที่สุกพอดี
5. ต้มไข่แดงให้เป็นยางมะตูม ใส่ไข่ในน้ำเย็น นำไปต้มไฟกลาง เริ่มจับเวลาไข่ไก่ 4-5 นาที ไข่เป็ด 5-6 นาที หลังจากนั้นตักแช่น้ำเย็นทันที

หลังจากรู้เทคนิคแล้ว เรื่องการเลือกไข่ให้สดใหม่และการต้มไข่ดังใจ คงไม่ยากเกินฝีมือหลอกนะครับ !!!


วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557

เทคนิคการหมักเนื้อหมู ให้นุ่ม อร่อยถูกปาก ทำได้ไม่ยากเลย !!!

เทคนิคการหมักเนื้อหมู ให้นุ่ม อร่อยถูกปาก ทำได้ไม่ยากเลย !!!



          หมูสามารถทำอาหารให้อร่อยได้หลากหลายรูปแบบแต่การจะหมักให้อร่อยถูกใจได้นั้น !!! บางทบมันเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย แต่วันนี้เรามีวิธีการหมักหมูและการแปรรูปหมูในรูปแบบง่ายๆมาเสนอกันครับ
          อันดับแรก ก่อนที่เราจะนำหมูมาหมักเราควรที่จะเลือกหมูที่สดและสะอาด โดยเลือกหมูที่มีสีชมพูอมแดง เนื้อนุ่มเป็นมัน เนื้อลื่น และไม่ควรมีสีที่แดงและแรงจนเกินไป ...
          หลังจากเลือกเนื้อหมูได้ตามขั้นต้นแล้ว ต่อไปนี้ก็จะเป็นวิธีการหมักหมูให้เนื้อหมูนั้นแสนนุ่มละมุนลิ้นกันแล้วครับ การหมักเนื้อหมูมีหลากหลายวิธีให้คุณได้ลองเลือก ลองลิ้ม และลองชิม ในหลากหมายรูปแบบ !! เรามาดูกันว่ามีวิธีใดที่สามารถหมักหมูได้บ้าง ??? 
1. หมักหมูด้วยไข่และนมสดชนิดจืด เหมาะสำหรับการหมักหมูที่มีไขมันน้อย เช่น เนื้อสันใน และถ้าอยากเพิ่มความอร่อยสามารถเพิ่มซีอิ๊วขาวหรือซอสปรุงรสลงไปด้วยก็ได้ (( เวลาที่ใช้ในการหมัก 30 นาที ))
2. หมักหมูด้วยสับปะรด โซดา ไวน์ และเบียร์ เหมาะสำหรับมักหมูส่วนที่มีเส้นใยมากๆ เช่น เนื้อส่วนสะโพก สามารถเลือกอย่างใดอย่างนึงในการหมักได้นะครับเพราะจะได้ผลที่คล้ายๆและใกล้เคียงกัน (( เวลาที่ใช้ในการหมัก 15-30 นาที ))
3. หักหมูด้วยน้ำมันงา แป้งมัน น้ำมันหอย เกลือ น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ซีอิ๊วขาว วิธีนี้เหมาะกับเนื้อหมูทุกส่วนและจะทำให้หมูน่ากินมากยิ่งขึ้น (( เวลาที่ใช้หมัก 30 นาที )) แต่ถ้าจะให้ดีนะครับก่อนนำหมูที่หมักลงไปประกอบอาหารให้นำสับปะรดมาคลุกจะได้หมูที่นุ่มมากขึ้นกว่าเดิม ชัววร์ !!! 
          

          เราว่ารู้จักเทคนิคง่ายๆในการหมักหมูสู่เมนูโปรดของคุณ !!!
หมักหมูทำราดหน้า :  นิยมหมักด้วยไข่ หรือไม่ก็ไข่ผสมแป้งเพราะเวลานำไปทำราดหน้าจะมีความเข้มข้น
หมักหมูทำก๋วยเตี๋ยว : นิยมหมักกับสับปะรด เพราะเวลาเติมเครื่องปรุง กลิ่นและรสจะไม่จากกลิ่นมะนาวหรือน้ำส้มเลย
หมักหมูทำโจ๊ก : ใช้แค่รากผักชี ริกไทย กระเทียม ก็พอครับ เพราะหมูบดมาแล้ว และถ้าไม่อยากให้หมูทีหมักแห้งมากเราสามารถเพิ่มนมสดลงไปในเนื้อหมูก็ได้

และ ... ทั้งหมดที่กล่าวมาเห็นมั้ยหละครับว่า ?? การหมักหมูให้นุ่มให้อร่อยไม่อยากอย่างที่คุณคิด ลองทำดูนะครับ แล้วจะรู้ว่า " มันไม่ยากเลย "